การโอนคดีจากศาลเยาวชนและครอบครัวไปพิจารณาในศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดา
Cases from the Juvenile and Family Court are heard in the ordinary court.
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันลักษณะการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น มีการเตรียมการมาก่อน มีการอุกอาจโหดร้ายทารุณ อีกทั้งยังพบว่ามีการกระทำความผิดซ้ำอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นลักษณะของการกระทำความผิดเช่นเดียวกับการกระทำความผิดของผู้ใหญ่ โดยเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็สืบเนื่องจากการที่กระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำให้เด็กและเยาวชนเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด กล่าวคือ แม้พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มีบทบัญญัติที่จะสามารถยับยั้งเด็กและเยาวชนไม่ให้กระทำความผิดร้ายแรงหรือกระทำความผิดซ้ำได้ซึ่งก็คือมาตรา 97 วรรคสองของพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ให้อำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวโอนคดีไปพิจารณาในศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดาได้ ส่งผลให้เมื่อเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเด็กและเยาวชนอีกทั้งยังต้องรับโทษเหมือนผู้ใหญ่แล้ว เด็กและเยาวชนอาจเกรงกลัวต่อโทษและไม่กล้าที่จะกระทำความผิดร้ายแรงหรือกระทำความผิดซ้ำอีกต่อไป แต่ในทางปฏิบัติไม่ปรากฎว่ามีการนำมาตรา 97 วรรคสองมาบังคับใช้ เนื่องจากการโอนคดีตามมาตราดังกล่าวไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอนอันเป็นเป็นการกระทบสิทธิของเด็กและเยาวชน อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของศาลเยาวชนและครอบครัวที่มุ่งดำเนินกระบวนกระบวนพิจารณาโดยคำนึงถึงหลักผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ คือ ไม่มีกำหนดเกณฑ์อายุขั้นต่ำของผู้กระทำความผิดที่ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการโอนคดีได้ ไม่มีการกำหนดประเภทความผิดว่าการกระทำความผิดอาญาใดที่ควรมีการโอนคดี และไม่มีการกำหนดอย่างชัดแจ้งให้นำรายงานการสืบเสาะข้อเท็จจริงมาใช้พิจารณาประกอบดุลพินิจอีกครั้ง
คำสำคัญ : การโอนคดี , โอนคดีศาลเยาวชน
ดาวน์โหลดบทความทางวิชาการฉบับเต็มที่นี่